พระสมเด็จทรงครุฑ เนื้อแดง ผสมว่านทางมหานิยมผสมขนหางนกยูงพัดโบก หลวงปู่ผาด วัดไร่
| หมวดหมู่ | หลวงปู่ผาด อภินนฺโท วัดไร่ จ.อ่างทอง |
| ราคา | 0.00 บาท |
| ลงสินค้า | 10 ก.พ. 2560 |
| อัพเดทล่าสุด | 23 ธ.ค. 2561 |
| คงเหลือ | 0 ชิ้น |
ขออภัย สินค้าหมด
รายละเอียดสินค้า
พระสมเด็จทรงครุฑ หลวงปู่ผาด วัดไร่ อ่างทอง
เอ่ยนาม หลวงปู่ผาด อภินนฺโท แห่งวัดไร่ อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง พระเถระผู้เฒ่า เจ้าตำหรับพญาครุฑสุดขลัง พระพรหมเหนือดวง เชื่อแน่ว่า บรรดานักนิยมพระเครื่องประเภท ชอบของจริง แรงจริง ใช้แล้ว บูชาแล้ว มีประสบการณ์จริง ไม่ใช่พระเชียร์ ไม่ใช่พระปั้น เป็นต้องรู้จักนามนี้ ดีทุกคน !! หลวงปู่ผาด หรือพระครูมงคลสาธุวัตรในวันนี้ อายุ 96 ปี พรรษา 75 ท่านบวชตั้งแต่ยังเป็นเณร รับใช้ใกล้ชิด ท่านเจ้าคุณรัตนมุนี วัดชีโพน พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นสัทธิวิหาริกของหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ เจ้าของเหรียญปั๊มรูปพระสงฆ์ที่มีราคาเช่าหาแพงที่สุดในโลก หลวงปู่ผาด จึงเป็นศิษย์กรรมฐานปลายน้ำในสายหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม ต่อมาท่านได้ไปเรียนกรรมฐานในสำนักวัดพระเชตุพล ฯ หรือวัดโพธิ์ท่าเตียน ด้วยความที่มีบุญเก่า สะสมมามากพอควร จึงรู้แจ้งแทงตลอดในพระกรรมฐาน ท่านจึงถูกเกณฑ์ให้ลงเรือข้ามฝาก ไปเรียนวิชาธรรมกาย จากพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระมงคลเทพมุนี (สด จันทสฺโร) วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ เรียนไม่นานนัก ท่านก็สามารถเข้าถึงธรรมกายได้ ดังคำยืนยันรับรอง จากหลวงพ่อสดเองว่า “แสงแห่งธรรมกายนั้น หากหยุดให้ถูกส่วน จะสว่างไสวกว่าพระอาทิตย์สักร้อยดวงมารวมกัน ใครไม่เชื่อให้ถาม พระจากอ่างทององค์นั้นดู”
แม้วัย 96 ปีของหลวงปู่ผาด จะแสดงถึงความแก่ ชรา ถ้ามองดูด้วยตา ก็ต้องรับว่า “ใช่” เส้นผม หงอกขาวเต็มทั้งศรีษะ ,เนื้อหนังเหี่ยวย่น ,หูตึงบ้างบางขณะ,สายตาฝ้าฟาง ลุกนั่งไม่ค่อยสดวกเหมือนก่อน ร่างกายแก่ชรา หย่อนคล้อย ก็เป็นไปตามวัย ตามอายุที่ผ่านโลกมานาน แต่ภายใต้ร่างกายอันเหี่ยวย่น กลับมีดวงจิตสว่าง สะอาด ประภัสสร ซ่อนอยู่ภายในใจหลวงปู่ ,เส้นเกษาที่หงอกขาว หากนำมาพิจารณาโดยละเอียด และหากใช้กล้องส่องพระ ส่องดูเส้นเกษาของหลวงปู่ จะเห็นได้ว่า มีความขาวใส เป็นความขาวใสแบบ “แก้วใส” เรื่องนี้ ศิษย์วัดใกล้ชิดรู้กันดี หากใครมีพระเครื่องของหลวงปู่ผาด ที่มีเส้นเกษาผสมอยู่ด้วย ก็เอามาดู เอามาพิสูจน์ได้ พระเครื่องที่เป็นพระพรหมเหนือดวง ผสมเส้นเกษาของท่าน หลายต่อหลายองค์ ปรากฏเส้นเกษางอกยาว ออกมาจากเนื้อพระเห็นถนัด ชัดเจน เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก
พระเครื่องรุ่นหนึ่งของหลวงปู่ผาด ที่สูงด้วยพุทธคุณ สวยด้วยพุทธศิลป์ และเจตนาการสร้างดี น่าใช้ น่าเก็บ น่าบูชา และเชื่อได้ว่า ต่อไปในอนาคต จะเป็นพระที่หายาก และค่านิยมจะสูงกว่านี้แน่นอน (เหมือนครุฑรุ่นแรกของท่าน ราคาบูชาออกจากวัด ตัวละ 400 บาท ปัจจุบัน ตกอยู่ที่ตัวละ 5,000 บาท ยังหาของไม่ได้) คือพระสมเด็จทรงครุฑ เนื้อต่าง ๆ ที่สร้างเนื่องในวาระแจกเจ้าภาพกรรมการกฐินประจำปี พศ. 2554 โดยกำหนดรูปแบบเป็นพระสมเด็จทรงครุฑ มีส่วนผสมเนื้อหา มวลสาร ที่เป็นผงพุทธคุณ และมวลสารชั้นยอด จากสุดยอดพระเกจิอาจารย์ และสถานที่สำคัญ ศักสิทธิ์จากทั่วประเทศ มีรายละเอียดดังนี้
พิมพ์ทรงนี้ มีความหมาย
พระสมเด็จทรงครุฑ ของหลวงปู่ผาดด้านหน้า เป็นรูปพระพุทธเจ้าศิลปะ “สุโขทัย” ประทับบนพญาครุฑ ที่กำลังยุดนาค ที่เลือกเป็นพระพุทธศิลป์สุโขทัยนั้น เพราะหลวงปู่ผาด ต้องการให้ผู้พบเห็นบูชา มีความ “สุโข” คือ สุข ตลอดไป
พญาครุฑ เป็นเทพพาหนะของพระนารายณ์ เป็นสัญลักษณ์ของราชการ จึงเชื่อถือกันว่า ผู้ที่บูชาพญาครุฑนั้น หากมีอาชีพรับราชการ ไม่ว่าจะเป็นกระทรวง ทบวง กรม กองอะไรก็แล้วแต่ และไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจ หรือข้าราชการพลเรือน จะมีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่ราชการ เจริญก้าวหน้าในยศฐา บรรดาศักดิ์ ในตำแหน่ง แห่งที่ ได้ดีกว่าเพื่อนร่วมงานทั่วไป ดั่งที่หลวงพ่อปาน โสนันโท แห่งวัดบางนมโค อ.เสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระอภิญญจารย์ยุคเก่าสมัยสงครามโลก คราวที่ท่านสร้างพระพิมพ์พระพุทธเจ้าประทับสัตว์ ออกแจกจ่ายแก่สาธุชนนั้น ท่านได้ให้สมญานามหรือจำแนกพระพุทธคุณเด่นของพระพุทธที่ประทับสัตว์แต่ละตัว ไล่ตั้งแต่ นกทำนา ปลาค้าขาย ไก่หากิน ... ครุฑรับราชการดี
ว่าที่จริง ตำนานเกี่ยวกับพญาครุฑนั้น มีความพิสดารอยู่มาก พญาครุฑ เป็นเทพกึ่งสัตว์ มีฤทธ์ อำนาจมาก มีพลังมาก สามารถจับนาคกินเป็นอาหารได้ นาคนั้น ก็เป็นเทพกึ่งสัตว์เช่นกัน มีพิษร้ายแรงมาก ดั่งคำโคลงโลกนิติว่า “นาคีมีพิษเพี้ยง สุริโย” คือพิษของนาค มีความร้อนแรง ร้ายกาจ ดุจไฟร้อนของพระอาทิตย์นั่นเลยทีเดียว แต่ครุฑสามารถทนพิษของนาคได้ และจับพญานาคกินเป็นอาหาร จึงเชื่อกันว่า พญาครุฑนั้นมีความเป็นอมตะ คือไม่ตาย เพราะแม้พิษอันร้ายกาจของพญานาค ก็ยังทำอันตรายไม่ได้
เหนือกว่านั้นคือ พญาครุฑเมื่อบิน จะบินสูงกว่าสัตว์บินได้ชนิดอื่นเสมอ แม้แต่หงษ์ทองของพระพรหม ก็ยังบินต่ำกว่าพญาครุฑ ด้วยเหตุดังนี้ โบราณจารย์จึงถือว่า พญาครุฑนั้นมีอำนาจเหนือเทพ เหนือคน เหนือสัตว์ทุกชนิด เป็นเหตุผลว่า ทำไมเมื่อบูชาพญาครุฑ จึงทำให้เรามีอำนาจเหนือกว่าผู้อื่น เหนือคน เหนือคู่แข่ง และเหนือกว่าอุปสรรค์ ขวากหนามทั้งปวง
พญาครุฑที่อยู่ในพระสมเด็จทรงครุฑของหลวงปู่ผาดนั้น แขนทั้งสองยุดพญานาค ไว้ข้างละตัว โบราณเรียกว่า “ครุฑยุดนาค” ซึ่งมีความหมายทางพรหมณ์ศาสตร์ว่า มีบริวารดี มีครอบครัวที่ดี มีทรัพย์สิน เงินทองแวดล้อมดี มีความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์ เพราะเหตุว่า พญานาค เป็นตัวแทนของธาตุน้ำ เป็นตัวแทนของกสิกรรม ความอุดมสมบูรณ์ ความชุ่มเย็น ทั้งพญานาคสองตัว ยังเป็นความหมายถึงครอบครัวที่ดี ดั่งตำราทำนายคู่ชายหญิง ที่ชื่อว่า “นาคสมพงศ์” นั้นแล และโดยเหตุที่พญานาค เป็นอาหารของพญาครุฑ เมื่อครุฑยุดนาค ไว้ข้างละตัว ย่อมหมายถึงว่า มีโภคสมบัติ โภคทรัพย์ อุดมสมบูรณ์ หนุนเนื่องเข้ามาหาอยู่ตลอดเวลา
ยิ่งกว่านั้น ปีนี้ พศ. 2555 บรรดาโหรฟันธง ,คอนเฟริมส์ ทุกสำนัก ต่างออกมายืนยัน และชี้ ไปในทางเดียวกันว่า ปีนี้ ต้องบูชา “พญาครุฑ” ทั้งคนดวงชง หรือไม่ชง เพราะเคราะห์ร้าย ภัยพิบัติ หากจะเกิดมี พลังเทวานุภาพของครุฑ จะกางปีกปัดเป่าออกไปหมด และเสริมดวงชะตาผู้บูชาให้ก้าวหน้า แบบก้าวกระโดด ด้วยพลังของปีกครุฑอีกเช่นกันที่จะพัดพา สิ่งมงคล สิ่งดี ๆ มามอบให้ ปีนี้ หากินลำบาก คนแย่งงาน แย่งกิน แย่งตำแหน่งกันมากขึ้น ต้องรีบบูชา พระสมเด็จทรงครุฑโดยเร็ว หลวงปู่ผาด ท่านทำครุฑมาก่อนใคร วิชาครุฑนี้ท่านสำเร็จมาตั้งแต่เป็นพระหนุ่ม ๆ หลักฐานชิ้นใหญ่ คือ ท่านปั้นพญาครุฑไว้ที่หน้าวัดไร่ ริมน้ำด้วยตัวเอง มานานนับได้ 40 กว่าปีแล้ว ย้ำคำว่า ปั้นพญาครุฑด้วยตัวเองอีกครั้ง !!!
ยันต์ด้านหลังก็สำคัญ พลิกดูด้านหลังกันบ้าง ถ้าอ่านยันต์เป็น เห็นยันต์มามาก จะเห็นได้ว่า พระยันต์หลังสมเด็จทรงครุฑรุ่นนี้ ไม่ธรรมดา แต่แฝงไว้ด้วยความเข็มขลัง ทรงพลัง ล้วน ๆ อักขระยันต์สี่มุม อ่านได้ว่า “นะ มะ พะ ทะ” หมายถึงพระยันต์แม่ธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม และไฟ ว่ากันตามจริง สิ่งมีชีวิตในโลกนี้ ล้วนกำเนิดจากแม่ธาตุทั้ง 4 ทั้งสิ้น
ดิน คือ เนื้อ หนัง มังสา อวัยวะน้อยใหญ่ ทั้งภายใน และภายนอก
น้ำ หมายเอาว่า น้ำทั้งหลายในร่างกาย มีน้ำเลือด น้ำมูก น้ำหนอง น้ำลาย น้ำตา และน้ำใจเป็นต้น
ลม หมายเอาภาวะเคลื่อนไหวของธาตุทั้งหลาย ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก ทั้งลมหนัก ลมเบา ถ้าขาดลมเข้า ลมออก ร่างกายก็แตกดับ
ไฟ หมายถึงความอบอุ่น สมดุลย์ ถูกส่วนในร่างกาย ถ้าธาตุไฟแตก ร่างกายก็แตกดับไปด้วย
แม่ธาตุ นะ มะ พะ ทะ ที่ประทับตรงมุมหลังพระสมเด็จทรงครุฑของหลวงปู่ผาด จึงมีความสำคัญ ช่วยส่งเสริมชะตาชีวิตของผู้บูชาได้อย่างดีเยี่ยม
อักขระยันต์ถัดมา คือ “นะ ชา ลิ ติ” อันเป็นหัวใจของพระสิวลีเถระเจ้า ซึ่งเป็นพระอรหันต์ในยุคพุทธกาล ที่พระพุทธเจ้าทรงยกย่องว่า เป็น เอกัตทัตคะ ด้านมีลาภสักการะมาก เหนือกว่าพระอรหันต์สาวกทั้งปวง แม้เมื่อคราวทรงเสด็จพาหมู่พระภิกษุธุดงค์ไปยังหนทางที่ทุรกันดาร ห่างไกลจากเมือง และหมู่บ้าน พระอานนท์พุทธอนุชา กราบทูลขอให้ทรงเปลี่ยนเส้นทาง ด้วยเหตุว่าเป็นทางทุรกันดาร เกรงว่า ระหว่างทาง พระสงฆ์ทั้งนั้นจะเดือดร้อนในเรื่องภัตตาหารขบฉัน พระพุทธเจ้าทรงมีพุทธฎีกาถามว่า “ในคณะสงฆ์นี้ มีพระสิวลีร่วมเดินทางไปด้วยหรือไม่” เมื่อทรงทราบว่า พระสิวลีร่วมเดินทางไปด้วย จึงทรงมีพุทธดำรัสว่า “เมื่อสิวลีร่วมเดินทางไปด้วย ก็ไม่จำต้องห่วงเรื่องภัตตาหารขบฉัน เพราะพระสิวลีนั้น ได้ชื่อว่า เป็นเลิศ ในลาภสักการะมาก” ซึ่งก็เป็นจริงตามพุทธดำรัส เพราะตลอดทางอันกันดารนั้น แม้ไม่มีบ้านผู้คน ห่างไกลบ้านเรือน แต่ด้วยอำนาจของพระสิวลีเถระเจ้า ที่ร่วมเดินทางไปด้วยนั้น บันดาลให้หมู่เทพบุตร เทพธิดา ลงมาจากสวรรค์ มาใส่บาตรพระพุทธเจ้า และพระสาวกทั้งคณะ ด้วยภัตตาหารอันเป็นทิพย์ มีรสเลิศกว่า อาหารในเมืองมนุษย์ โบราณจารย์จึงรจนาพระคาถาหัวใจพระสิวลีวเถระเจ้าว่า “นะ ชา ลิ ติ” อันเป็นเลิศด้านลาภ สักการะทั้งปวง ตามที่ชาวบ้าน ร้านตลาดเข้าใจว่า เป็นพระคาถาค้าขายของดีนั่นเอง
ตรงกลางเป็นพระยันต์จักรนารายณ์ อันหมายถึงจักรแก้ว อันเป็นเทวอาวุธ คู่กรของพระนารายณ์เทพเจ้า ที่ทรงใช้ประหารหมู่อสูร รวดเร็วดุจจักรผัน อันหมายถึงเป็นมหาปราบ คือปราบศัตรู ปราบสิ่งเลวร้าย ปราบปัญหา และอุปสรรค์ทั้งปวง ทั้งยังหมายถึงการหนุนนำชีวิต ให้เจริญก้าวหน้า รุ่งเรือง ไม่มีที่สุดสิ้น ดุจซี่กงจักร ที่หมุน หนุนเนื่อง นำชีวิตให้สูงขึ้นอยู่เสมอ ไม่มีช่องว่างให้ตกต่ำ ย่ำแย่นั่นเอง
อักขระล้อมรอบจักร 16 ตัว คือ พระเจ้า 16 พระองค์ หรือยันต์โสฬสมงคลอย่างย่อ ทางพุทธถือว่า เป็นพระนามแทนพระพุทธเจ้า ทั้ง 16 พระองค์ ในภัทรกัลป์นี้ แต่ในทางพรามหณ์ศาสตร์ ถือว่า เป็นพระนามพระเป็นเจ้า ทั้ง 16 พระองค์ อันมีอำนาจเหนือสวรรค์ และเหนือมนุษย์ทั้งปวง เรียกว่า 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน ในทางพุทธเวทย์ ยังถือว่าเป็นนามแทนพระคำภีร์สำคัญ 16 เล่ม รวมความว่า เป็นศิริมงคล 16 เสริมดวง เสริมบารมีผู้บูชาอย่างที่สุด
อักขระยันต์สุดท้าย คือ “นะ โม พุท ธา ยะ” อันหมายถึงพระนาม พระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ในภัทรกัลป์นี้ ทั้งยังเป็นพระคาถาสำคัญ คู่กับสิ่งศักสิทธิ์ในประเทศไทยมาช้านานแล้ว เช่น ยันต์หลังเหรียญหลวงพ่อพุทธโสธร ฉะเชิงเทรา ,ยันต์หลังเหรียญหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ นครสวรรค์ ,ยันต์หลังเหรียญหลวงพ่อฉุย วัดคงคา เพชรบุรี และอีกมายมายหลายคณาจารย์ ก็ล้วนเป็นพระยันต์ ห้า อันหมายถึง “ นะโม พุท ธา ยะ” นี้ทั้งสิ้น
รวมความทั้งหมด ทั้งมวลของพระสมเด็จทรงครุฑ ของหลวงปู่ผาด วัดไร่ ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ล้วนแล้วแต่มีความหมายทางพุทธศาสตร์ และมีความงดงามทางพุทธศิลป์ เป็นอย่างยิ่ง
มวลสาร ผงพระ ก็ศักสิทธิ์เช่นกัน เพราะสำนักวัดไร่ เน้นหนักด้านชนวน มวลสาร มาแต่ไหนแต่ไร ถ้าเป็นพระเนื้อโลหะ ก็ต้องผสมชนวนที่ศักสิทธิ์ จะเป็นก้านช่อ ก้านชนวน เนื้อโลหะเทวรูปเก่า ตะกรุดเก่า ฯ มีเท่าไร ผสมเต็มที่ หรือจะเป็นพระเนื้อผงก็ผสมมวลสารสำคัญ เท่าที่หาได้ เช่น เกสรดอกไม้ 108 ผงว่าน ผงมหาเสน่ห์ และผงวิเศษที่หลวงปู่ผาด ลบ ถมเอง สำหรับพระสมเด็จทรงครุฑนี้ มีผงวิเศษมากมาย ที่พอจะสรุปรวมความได้ มีดังนี้
ผงว่านมหาเสน่ห์ 108 ,พัดโบกนกยูงครูบาทางเหนือ 16 ช่อ, พวงมาลัย ดอกไม้ที่พระสงฆ์ถวายให้แก่กันคราวปราวณาเข้าพรรษา 16 วัด ,เส้นเกษาหลวงปู่ผาด (ใสเป็นแก้วหรือไม่ พิสูจน์ดูได้) ผ้าจีวร ,ผ้าสังฆาฎิ และชานหมากหลวงปู่ผาด , ไม้ช่อฟ้าโบสถ์วัดไร่ (วาสนาดี บารมีสูงส่งเหนือใคร ไม่มีตกต่ำ ประกอบการงานใด ๆ เหนือเขาหมด) ,กระจกหน้าบรรณโบสถ์วัดไร่ ,ขมุก และดีบุกที่ยึดกระจก อยู่คู่โบสถ์วัดไร่มาเกือบร้อยปี (ดึงดูดสิ่งดี ๆ ศิริมงคลทั้งปวงเข้ามาสู่ผุ้บูชา -สะท้อนสิ่งไม่ดี สิ่งอวมงคลออกไปจากชีวิต ),แก่นโพธิ์นิพพาน ทั้งสามสิ่งนี้ ได้มาคราวซ่อมโบสถ์วัดไร่ ,ดินมูลกุฎิพระสิวลีเถระเจ้า,ดินมูลคันกุฎี,พระบรมธาตุ ,พระธาตุ(ทั้งที่เป็นสมบัติเก่าของหลวงปู่ผาด และที่หลวงปู่ผาดอัญเชิญมาในแต่ละครั้ง เมื่ออธิฐานเข้ากรรมฐาน และที่ศิษย์ในสายหลวงพ่อฤาษีลิงดำ นำมาถวาย), ผงผสมดินพระสมเด็จกรุบางขุนพรหม ( ได้รับจากศิษย์รุ่นเก่าของท่านเจ้าคุณวัดมหาธาตุ),ดินสอพองที่ทำพิธีลบถมวิชาพระลักษณ์หน้าทอง, ทองจากพระมหาเจดีย์ ,ผงพุทธคุณ ,ผงปัถมัง,ผงตรีนิสิงเห, ผงมหาราช ,ผงอิธิเจ,ผงโสฬสจากวิชาโสฬสมหามงคล สายหลวงปู่เอี่ยม วัดสะพานสูง ,ผงพระสมเด็จวัดระฆัง รุ่นเสาร์ 5 , ผงพระสมเด็จวัดระฆัง ,ผงพระสมเด็จเกศไชโย,ผงพระสมเด็จบางขุนพรหม, ดินกลางสระน้ำ-ดินกลางตลาด-ดินตีนท่า-ดินกลางโบสถ์วัดที่เปิดให้ลอดโบสถ์ (หวังผลด้านลาภสักการะ กลับดวง หนุนดวง เปลี่ยนดวงจากร้ายให้กลายเป็นดี จากดีให้ทวีคูณยิ่ง ๆ ขึ้นไป) , ไคลโบสถ์-ไคลเสมา-ไคลเจดีย์ (หวังผลด้านพุทธคุณหนุนนำชีวิต ทำมาค้าขึ้น กันและแก้อาถรรพ์),ผงตะไบพญาครุฑ รุ่นหนึ่งและรุ่นเพชรกลับของหลวงปู่ผาด,ผงตะไบเทวรูปเก่า,กำไลเก่า,ข้าวก้นบาตร –ข้าวปากบาตรของหลวงปู่ และอีกมากมาย
พิธีปลุกเสก "พระสมเด็จทรงครุฑ" ภายในอุโบสถวัดไร่ หลวงปู่ผาด ให้ปิดโบสถ์ ลั่นดาลทั้งประัตูและหน้าต่าง ให้จุดเทียนปักไว้รอบถาดพระสมเด็จทรงครุฑ นับได้ร้อยดวง แสงเทียนสว่างจ้า ทำลายความมืดมิดในโบสถ์ทั้งหมด เป็นความสว่างแต่ไม่ร้อน และแปลกอยู่อย่าง เมื่อหลวงปู่ผาด เป่าลมลงไปในกองวัตถุมงคล เปลวเทียนที่อยู่ห่างออกไป รวมทั้งเทียนที่จุดด้านหลัง เกิดไหวต้องลมพร้อมกัน
การอธิฐานจิตปลุกเสก สุดยอดดศักสิทธ์ แม้เป็นพิธีเล็ก ๆ หลวงปู่ผาด ปลุกเสกเดี่ยว และขลังที่สุด พระสมเด็จทรงครุฑทั้งหมด ปลุกเสก ณ พระอุโบสถวัดไร่ ทำไมถึงต้องเป็นโบสถ์วัดไร่ ???
ที่โบสถ์วัดไร่ อันถือเป็นพุทธมลฑลประจำวัด เมื่อเดินเข้ากำแพงแก้วจะเห็นซุ้มประตูโบสถ์ด้านหน้าเป็นรูปพระพุทธเจ้าปางตรัสรู้ ด้านหลังซุ้ม เป็นรูปพระพุทธเจ้าปางลีลา รวมความว่า เมื่อยกถาดพระสมเด็จทรงครุฑเดินผ่านซุ้มประตูวัดไร่ ก็จะได้รับพุทธคุณในด้านเจริญก้าวหน้า ความสำเร็จในหน้าที่การงานไปเต็ม ๆ หากมองที่ซุ้มเสมาประจำโบสถ์จะเห็นตราพระราหูอมจันทร์ อมตะวัน 4 ตน ประจำทุกซุ้มเสมา รวมความว่า มีพระราหู 16 ตนประจำอยู่รอบโบสถ์วัดไร่ อันว่าพระราหูนี้ เป็นเทพอสูรมีฤทธิ์มาก เป็นอมตะ ใครฆ่าไม่ตาย เพราะได้โขมยดื่มน้ำอมฤต ตอนเทวดาและอสูรกวนน้ำอมฤต ขนาดโดนพระนารายณ์ประหารด้วยจักรแก้ว ก็ยังไม่ตาย ยังคงคอยตามจับกินพระอาทิตย์ และพระจันทร์ มาจนถึงทุกวันนี้ โบราณจารย์เชื่อกันว่า หากพระราหูเสวยอายุใคร ผู้นั้นจะเดือดเนื้อร้อนใจ มีโรคภัยไข้เจ็บคอยเบียดเบียน มีเรื่องให้คอยทุกข์อก ทุกข์ใจอยู่ตลอดเวลา แต่พระราหูของวัดไร่ เป็นราหูดี เพราะเหตุได้เข้าใกล้พระศาสนา ได้เป็นพระราหูเฝ้าเสมา อันเป็นเขตขันธ์ของพระพุทธศาสนา ฤทธิ์และอำนาจของพระราหูในทางลบ ทางเสื่อมเสีย จึงกลับตาลปัตร กลับด้าน กลายเป็นฤทธิ์อำนาจ ในทางส่งเสริม อุดหนุนผู้บูชา ให้มีแต่ความเจริญ ก้าวหน้าจากที่เคยทำฤทธิ์ด้านเดือดเนื้อร้อนใจ โรคภัยเบียดเบียน ก็จะให้ผลตรงกันข้าม คือ สุขกาย สบายใจ โรคภัยมลายหายสิ้นไป มีพระราหูดี คุ้มครองป้องกันภัยจากราหูร้าย นี่เป็นอุปเท่ห์อันชาญฉลาด ในการนำพระสมเด็จทรงครุฑ มาทำพิธีปลุกเสก ณ พระอุโบสถวัดไร่ (หากท่านมีโอกาสไปเยี่ยมเยือนวัดไร่ อย่าลืมไปดูพระราหูฝ่ายดี 16 ตน ที่ประจำโบสถ์วัดไร่ เพื่อเสริมศิริมงคลแก่ชีวิต)
เหตุสำคัญวันปลุกเสก !!! เมื่อได้ฤกษ์ปลุกเสก(อันอยู่ในเทวีฤกษ์ คาบเกี่ยวกับเพชรฆาตฤกษ์) หลวงปู่ผาด ให้ปิดโบสถ์ ลั่นดาลทั้งประตู และหน้าต่าง และให้จุดเทียนปักไว้รอบถาดพระสมเด็จทรงครุฑ นับได้ นับร้อยดวงเทียน แสงเทียนสว่างจ้า ทำลายความมืดมิดในโบสถ์ทั้งหมด เป็นความสว่าง แต่ไม่ร้อน และแปลกอยู่อย่าง เมื่อหลวงปู่ผาด เป่าลมลงไปในกองวัตถุมงคล เปลวเทียนที่อยู่ห่างออกไป รวมทั้งเทียนที่จุดด้านหลัง เกิดไหวต้องลมพร้อมกัน ถามว่าแปลกไหม ต้องตอบว่าแปลก เพราะ ลมปากพระผู้เฒ่า วัย 96 ปี ให้เป่าเต็มที่ก็ไม่เกิน 2 ศอกเบื้องหน้า แต่เปลวเทียนที่อยู่ห่างไป รวมทั้งเปลวเทียนด้านหลัง กลับไหวตามลมปากท่าน เรื่องนี้ ถ้าไม่เรียกว่าอำนาจจิต อำนาจอภิญญา จะเรียกว่าอะไรดี ???
หลวงปู่ผาด องค์นี้ เมื่อตอนปลุกเสกพญาครุฑรุ่น 1 ลูกศิษย์หลวงพ่อพระราชพรหมญาน ฤาษีลิงดำ อยู่ในพิธีด้วย ได้นั่งสมาธิตาม ตามแบบฉบับมโนฤทธิ เห็นเป็นพญาครุฑตัวสีแดงใหญ่ คล้ายสีดวงตะวัน มากางปีกคลุมวัดไร่ไว้ สว่างไสวไปทั่วท้องฟ้า
สำหรับท่านที่อยากได้ของดี อยากมีของขลัง ทรงพลังพุทธคุณหนุนนำชีวิต ให้เจริญก้าวหน้า พระดี ๆ อย่างนี้หายาก ทางมูลนิธิ พระอภิญญาจารย์ ซึ่งเป็นมูลนิธิที่มีวัตถุประสงค์สนับสนุนการศึกษาเล่าเรียนของพระภิกษุสงฆ์ และส่งเสริมหลังธรรม คำสอนของพระพุทธเจ้า เผยแผ่วัตรปฎิบัติ และปฎิปทาของพระภิกษุสงฆ์ผู้ปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบได้รับมอบพระสมเด็จทรงครุฑจาก หลวงปู่ผาด และพระอาจารย์ลออ ฐานสโม รองเจ้าอาวาสวัดไร่ มาจำนวนหนึ่งเพื่อมอบให้กับผู้บริจาคทรัพย์สมทบทุนมูลนิธิ เพื่อใช้เป็นทุนในการปฎิบัติตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ ฯ ต่อไป โดยให้ร่วมบริจาคทำบุญได้ในอัตราเดียวกับวัดไร่ สำหรับ 6 เนื้อมวลสารคือ
1. เนื้อนำฤกษ์ เป็นพิมพ์โบราณ สร้างจำนวน 99 องค์ มีหมายเลขกำกับทุกองค์ หลวงปู่ผาด กดพิมพ์ที่วัดเองทุกองค์ ผสมมวลสารสำคัญมากมาย
2. เนื้อผงอิทธิเจสีขาว ผสมกระจกหน้าบันวัดไร่ ฝังพระธาตุ มีเส้นเกศาหลวงปู่ผาดโรยด้านหน้า กดโค้ดเป็นสำคัญ
3. เนื้อผงว่าน ผสมดินกากยายักษ์ ซึ่งดินนี้เป็นดินเดียวกับที่ใช้สร้างพระเนื้อว่านหลวงปู่ทวด วัดช้างให้รุ่นแรก เมื่อปี พ.ศ.2497 ฝังเม็ดแร่ขวานฟ้า และพระธาตุ มีเส้นเกศาหลวงปู่ผาดโรยด้านหน้า กดโค้ดเป็นสำคัญ
4. เนื้อแดง ผสมว่านทางมหานิยม ผสมขนหางนกยูงพัดโบก ฝังพระธาตุและมีเส้นเกศาหลวงปู่ผาดโรยด้านหน้า กดโค้ดเป็นสำคัญ
5. เนื้อเหลืองขาว ฝังเม็ดแร่ มีเส้นเกศาหลวงปู่ผาดโรยด้านหน้า ด้านหลังฝังปลอกลูกปืน กดโค้ดเป็นสำคัญ
6. เนื้อผงธูปกรรมฐาน และเนื้อผงเกสร 108
ฝังตะกรุดเงิน 9 ดอก สร้างจำนวน 196 องค์
ฝังตะกรุดเงิน 8 ดอก สร้างจำนวน 296 องค์
ฝังตะกรุดเงิน 7 ดอก สร้างจำนวน 396 องค์
ฝังตะกรุดเงิน 6 ดอก สร้างจำนวน 496 องค์
ฝังตะกรุดเงิน 5 ดอก สร้างจำนวน 496 องค์
ฝังตะกรุดเงิน 3 ดอก สร้างจำนวน 596 องค์
ฝังตะกรุดเงิน 1 ดอก สร้างจำนวน 996 องค์
เนื้อลงกรุ ไม่ฝังตะกรุด
วิธีการชำระเงิน
ชำระเงินผ่านธนาคาร
บมจ. ธนาคารกสิกรไทย
สาขาซีคอนสแควร์ ออมทรัพย์
นายณัฐวรรธน์ เนติกุลภาคย์
021-xxxxxx-9
▲
▼
รายการสั่งซื้อของฉัน
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
รัตตยา พระใหม่
ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ครอบครัว "รัตตยา พระใหม่" ทางเรารับประกันพระแท้ 100% ทุกรายการ เก๊ยินดีคืนเงินเต็มจำนวนค่ะ ภายใต้เงื่อนไข พระต้องอยู่ในสภาพเดิมทุกประการ ไม่แตกหัก ไม่มีตำหนิ ไม่ผ่านการล้างผิวไม่ทำให้พระสึกหรือเสียหายค่ะ รบกวนโอนภายใน 2 วันนับถัดจากวันจองหลังจากนั้นถือว่าสละสิทธิ์ ( โดยมิจำเป็นต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าแต่อย่างใด ) => จัดส่งของให้ วันจันทร์-ศุกร์ ตัดรอบ 10:00 น. นะคะ <= ::: มีค่าบริการจัดส่ง ครั้งละ 70 บาท ::: ^O^ ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมนะคะ ^O^ Facebook : รัตตยา พระใหม่
เบอร์โทร : 0988299682
อีเมล : natthawat1990s@gmail.com
อีเมล : natthawat1990s@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
ค้นหาสินค้าในร้านนี้
ค้นหาสินค้า
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้
↑
TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
สินค้าในตะกร้า ({{total_num}} รายการ)
ขออภัย ขณะนี้ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า
ราคาสินค้าทั้งหมด
฿ {{price_format(total_price)}}
- ฿ {{price_format(discount.price)}}
ราคาสินค้าทั้งหมด
{{total_quantity}} ชิ้น
฿ {{price_format(after_product_price)}}
ราคาไม่รวมค่าจัดส่ง
➜ เลือกซื้อสินค้าเพิ่ม