พระลักษณ์หน้าทอง รุ่นแรก หนังกลองเพลแตก สุดเฮี้ยน สุดยอดมหาเสน่ห์ เป็นเอกเรื่องเมตตา มหานิยม สุดๆ
กลองเพลประจำแต่ละวัด โบราณถือว่าเป็นมหาโภคทรัพย์ เพราะได้ยินเสียงกลองเพลเวลาใด แสดงว่าได้เวลาพระฉันเพลแล้ว ซึ่งนอกจากจะอุดมสมบูรณ์ด้วยข้าวปลาอาหารที่เรียงรายรอประเคนพระแล้ว เสียงกลองเพลยังชักนำชาวบ้านร้านตลาดมาพบ มาเจอกันที่วัด หนุ่ม สาว ผู้เฒ่า เด็กเล็ก เด็กโต ข้าราชการ พ่อค้า-แม่ขาย รูปงาม นามเพราะ ร่ำรวย ปัญญาดี ต่างคนต่างรีบมาที่วัด เสียงกลองเพลดังทั้ง 8 ทิศ ผู้คนหญิงชายทั้ง 8 ทิศ ต่างหลั่งไหลมา วัด ตีเวลาใดเรียกคนเมื่อนั้น ตีเวลาใดเรียกโภคทรัพย์เมื่อนั้น ของดีๆ สิ่งดีๆ หลั่งไหลมาเมื่อนั้น กลองเพลจึงถือเป็นมนต์จินดามณีประจำวัดเลยทีเดี่ยว ธรรมดากลองเพลนี่เขาตีวันละครั้ง แต่ยิ่งตีจนหนังกลองเพลแตกท่านว่ายิ่งขลัง เพราะเรียกคน เรียกโชค เรียกลาภ เรียกโภคทรัพย์ มานักต่อนักแล้ว หากเอามาทำพระลักษณ์หน้าทอง ขลังแรง มีตัวมีตนตั้งแต่ยังไม่ได้ปลุกเสก
ท่านบอกว่าพระลักษณ์นี่หน้าทองสดใส สว่างไปทั่ววัด พ่อขาวแม่ขาวที่มาถือศีลเขาเห็นกันทุกคน ใช้เป็นเมตตามหานิยมดีนัก เมตตาค้าขายก็ได้ มหาเสน่ห์แก่คนทั้งหลายก็ได้ (หลวงพ่อลออเล่าให้ฟังอย่างอารมณ์ดี)
พระคาถาปลุกเสกพระลักษณ์หน้าทองบทใหญ่ ปลุกเสกให้ได้วันละครั้ง ศักดิ์สิทธิ์ดังใจนักแล
"พุทธัง โอม หน้ากูเป็นทองอย่างพระอาทิตย์ จะเข้ามาสะกิดจิตและหน้าของคนทั้งหลาย สัพเพชะนา พะหูชะนา อิตถีวา ปุริโสวา สะมะณะพราหมะโณวา เอหิจิตตัง ปิยัง มะ มะ โอม พระแลงเป็นแสงพระลักษณ์ พระฤาษีจับปากกา พระลักษณ์จับหน้า จับตา สวาหะ เอหิจิตตัง หญิงเห็นหญิงรัก ชายเห็นชายทัก กูจะค้าจะขายก็ให้ได้พันทะนานทอง กูจะหมายปองผู้ใดก็ให้สำเร็จ เสร็จสิ้นโดยเร็วพลัน"
บทนี้ใช้ภาวนาคู่กับพระลักษณ์หน้าทอง (ได้แล้วรับเลี้ยง)"อิติปาระมิตาติงสา อิติสัพพัญญูมาคะตา อิติโพธิมะนุปปัตโต อิติปิโสจะเตนะโม พิสวาท หลงใหล พิสมัยแนบเนื้อ ใจจิตคิดถึง เคล้าคลึงวิญญาณ วิชชาจะระณะสัมปันโน อิติปิโส ภะคะวา นะละลวย หันตะวา โมเมามัว พุทเอาตัว ธามาสมสู่ ยะรักกูจนวันตาย ปิโยเทวามะนุษสานัง ปิโยพรหมมานะมุตตะโม ปิโยนาคะสุปันนานัง ปิยินทิยัง นะมามิหัง"