💢น้ำมันกามสามกลุ่ม💢 (กามภพ กามจิต กามจร) กามะเทวสูตร
น้ำมันระดับตำนาน หัวเชื้อเดิมของทวดเคว็จ คงแก้ว
ฆราวาสผู้เป็นอมตะด้านเสน่หาลือชื่อวิชาน้ำมัน๔ชั้น
รวม๑๖ชำนิด(สามารถแตกย่อยออกได้ถึง๕๖ชำนิด)
แต่มีอยู่ชนิดหนึ่งได้รับการจำเพาะเจาะจงเป็นพิเศษ
นั่นคือ น้ำมันกลุ่มกามสูตร อันแตกออกอีกหลายตัว
ซึ่งสามตัวล่างสุด คือ น้ำมันกามภพ กามจิต กามจร
แน่นอนว่า ในสามตัวนี้ ปัจจุบันแม้แต่ผู้สืบสายเลือด
ของทวดเคว็จเอง ยังไม่สามารถจะทำได้เหตุเพราะ
กรรมวิธีซับซ้อนมากยิ่งกว่าการทำน้ำมันทั้ง๑๖ชนิด
น้ำมันตัวนี้จึงมีคุณมากมายหลายประการหาใช่เพียง
ด้านความรัก ด้านชู้สาว ด้านเสน่หาเพียงอย่างเดียว
แต่ให้คุณนานับประการโดยทั่วไปนิยมพกพานะครับ
คุณสมบัติโบราณว่าเป็นน้ำมันแห่งการกำเนิดทั้งปวง
เป็นบ่อเกิดการกำเนิดสรรพสัตว์. มีคุณนานับประการ
ใช้ได้ตามนึกปรารถนา โดดเด่นสุดๆ ในด้านความรัก
ด้านชู้สาว ด้านเสน่หา ด้านเมตตาแก่ผู้คนทั้งหลาย..
ครูผู้เฒ่าเล่าไว้ ชายใดไม่มีเมีย พกแล้วจักได้มี
หญิงใดไม่มีผัว พกแล้วจักได้มี มีแล้วจักมาอีก
มักมีผู้คน มาพัวพัน มาหลงรักกล่าวทักปราศัย
ถึงขั้นพิศสวาทกันไป ตามลำดับขั้น...ฉันชู้สาว
ขึ้นอยู่กับตบะ และความอดทนแต่ละคนนะครับ
ถ้าตบะแตกเอาไม่อยู่..ไม่ขอรับผิดชอบนะครับ
#นัยยะหนึ่งน้ำมันนี้เป็นกามกำเนิด..ตำรากล่าวว่า
..ผู้ใดพกน้ำมันนี้จักมีราศีเสมือนกามเทพแผลงศรแล
..ผู้ใดมีบุตรยาก...พกไว้บูชาผู้นั่นจักบังเกิดบุตรแล
..ผู้ใดหาคนรักยาก...พกไว้จักสมปราถนาแล
..ผู้ใดทำมาหากินไม่ขึ้น พกไว้จักบังเกิดผลแล
..ผู้ใดกำหนัดอ่อน พกไว้เสริมกำหนัดแล
..ผู้ใดไร้รัก ไร้คนอุปถัมภ์ พกไว้จักมีคนอุปถัมภ์แล
..ผู้ใดขาดลาภ ไร้ลาภ พกไว้จักบังเกิดลาภเงินทอง
..ผู้ใดไปรบพิชัยสงคราม แม้ศัตรูก็ไม่กล้าง้างดาบฟัน
..ผู้ใดต้องโทษแผ่นดิน ถึงตายหากพกไว้จะมิถึงตายแล
..ผู้ใดเข้าพงษ์ เข้าป่า พกไว้สัตว์ทั้งปวงมิกล้าทำร้ายแล
..ผู้ใดทำการค้าพานิชย์ พกไว้มักได้เป็นเศรษฐีแล
..ผู้ใดออกเรือหาปลา พกไว้จักได้ปลามากแล
..ผู้ใดกามขัด กามไม่เดิน นำมาใช้เถิดดีนักแล
..ผู้ใดหน้าหมอง ใบหน้าตกเมฆ พกพาเถิดจักราศีดีแล
..ผู้ใดแฟนหาย นอกใจ นำน้ำมันนี้ทารูปทารอย อธิฐานขอ
..ผู้ใดปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ไม่บังเกิดผล น้ำมันทาเสาคอก
ทาไม้ปักกลางสวน กลางแปลง พืชพันธุ์ สัตว์เลี้ยง งามแล
..ผู้ใดคนในบ้านสูญหาย หาไม่พบ นำน้ำมันทารูปทารอย
ด้วยแรงแห่งกามจิต จะดลให้จิตใจต้องหวนหับกลับมาแล
..ผู้ใดการงานไม่รุ่งเรือง นำมาจุลเจิมโรงงาน บริษัท
สถานการค้า หรือตั้งบูชาจักบังเกิดความรุ่งเรืองขึ้นแล
กามภพ...กามจิต....กามจร....
#กามภพ...ความเป็นกาม,ความเกิดในกาม หมายถึง
การเกิดของกามาวจรจิตและเจตสิก ซึ่งท่องเที่ยวไป
ในรูป เสียงกลิ่น รส โผฏฐัพพะหมายถึง ภพ..ที่เป็นที่
ท่องเที่ยวไปของกามาวจรจิตและเจตสิกเป็นส่วนมาก
ซึ่งได้แก่ กามภพ ๑๑ คือ...อบาย๔ มนุษย์๑ สวรรค์๖
รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ
(สิ่งที่กระทบสัมผัสกาย)เป็น...กาม...
ฉะนั้น จิตใด ๆ ก็ตามที่เป็นไปในกาม คือ เห็นรูป
ได้ยินเสียง ได้กลิ่น ลิ้มรส สัมผัสคิดนึกเรื่องเหล่านี้
โดยสภาวะจิตก็เป็นกามภพ บางทีก็เรียก กามโลก
#กามจิตกาม ( ความใคร่,วัตถุที่เป็นที่ตั้งของความใคร่ )
+ จิตต (จิต) จิตที่ยังเป็นไปในกาม หมายถึง
จิตที่ยังข้องในกาม คือ มีรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ
เป็นอารมณ์ หรือเป็นจิตที่เกิดในกามภูมิ ๑๑ ส่วนมาก
ได้แก่ กามาวจรจิต ๕๔ คือ อกุศลจิต ๑๒ อเหตุกจิต
๑๘ มหากุศลจิต ๘ มหาวิบาก ๘ มหากิริยา ๘
คำว่ากามอารมณ์ หมายถึง อารมณ์ที่เป็นกามหรือ
ปริตตารมณ์ อารมณ์ที่เล็กน้อย สภาพธรรมของ
กามอารมณ์ ได้แก่ กามาวจรจิต ๕๔ เจตสิกที่
ประกอบ รูป ๒๘ ทั้งหมดเป็นปรมัตถธรรม
#กามจร หรือ กามาวจรจิต คือ จิตขั้นกาม
ที่ท่องเที่ยวไปในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ
เป็นจิตที่ยินดีพอใจในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ
เป็นจิตที่ไม่พ้นจากรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ
.. บางท่านก็บอกว่าทำบุญแล้วอยากเกิดในสวรรค์
สวรรค์ก็ไม่พ้นจากรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะแต่
กามอารมณ์ประณีตกว่ากามอารมณ์ในโลกมนุษย์
ตั้งแต่ เกิดจนตาย ขณะใดที่ จิตยังสงบ ไม่ถึงขั้น
อัปปนาสมาธิ หรือยังไม่เกิดณานจิตและยังไม่เป็น
โลกุตตรจิต เมื่อนั่นยังเป็นกามวจรจิตทั้งสิ้นแล..
...ดังนั่นคนเราทุกคนย่อมมีกามารมณ์ล้วนทั้งสิ้น
เพียงแค่ว่า เราจะยอมรับมัน ได้มากน้อยแค่ไหน
...หลายคนมักปิดบังตัวเอง.......ปกปิดความจริง
ที่จิตยังคงคิดอยู่...กามรมณ์ไม่ได้เป็นสิ่งเลวร้าย
ถ้าเรารู้จักควบคุมให้ ไปตามครรลองคลองธรรม
เพราะกามารมณ์เป็นบ่อเกิดสรรพสัตว์ทั้งปวงใน
โลกนี้ถ้าไม่มีซึ่งกามภพ กามจิต กามจรแล้วไซร้
โลกนี้ก็คงไม่มี มนุษย์และสัตว์ให้สืบเผ่าพันธุ์อยู่
....เพราะฉะนั่นโบราณจึงมีตำรากามสูตร กามจร
ไว้ศึกษาเพื่อเข้าใจ ความเป็นไปของกามกำเนิด
ที่บ่อเกิดแห่งสรรพสัตว์ทั้งมวลเป็นการเข้าใจถึง
สรีระของร่างกายตามส่วนต่างๆ
หากผู้ใดเคยศึกษากามจรจะพบว่าในร่างกายเรา
ในแต่ละวันกามจรจะจรในร่างกายเราที่ตำแหน่ง
ต่างๆ ต่างกันออกไปของแต่ละวัน
ดังนั่น...ที่ข้าพเจ้านำเรื่องเหล่านี้มาเล่าสู่กันฟังก็
เพื่อให้ท่านได้เข้าใจเบื้องต้น...ของเรื่องราวแห่ง
กามสูตร อันมี กามภพ กามจิต กามจรซึ่งเป็นตัว
ประกอบขึ้นมา..อย่ามองว่าเป็นสิ่งลามกและไม่ดี
เป็นสิ่งที่ไม่สมควรหากท่านเองยังละซึ่งความรัก
ความหลง ความใคร่ ความต้องการและความคิด
ทางด้านนี้ไม่ได้ท่านก็หนีไม่พ้นกามารมณ์นั่นแล
ดังนั่นน้ำมันตัวนี้จึงมีคุณมากมายหลายประการ
หาใช่เพียงด้านความรัก ด้านชู้สาว ด้านเสน่หา
เพียงอย่างเดียว แต่ให้คุณนานับประการ
หากจะทาได้ 3 จุด คือ สะดือ ใต้สะดือ ใจผ่ามือทั้ง2
แล้วนั่งทาชันขา ลูบพาขึ้นเทียมอก 3 ที....ราศีจะขึ้น
..หากใช้ชู้สาว เข้าหาคนรัก
ทาสะดือ ใต้สะดือหรือองคชาติหญิงติดรสรักแน่นอน
..หากใช้เพื่อเมตตา แค่พกพาติดตัวก็พอครับ
..หากใช้เพื่อเสน่หา ให้เขาหลงไหล
ทาสะดือ วน 3 รอบ สะดือคือหลักศรีสุดา
แกนกลางร่างกาย อำนาจคุณจะวิ่งไปทั้งตัว
..หากใช้เพื่อทำมาหากิน แค่พกพา
หรือ เจิมเสา เจิมร้าน เจิมแผ่นดิน
ต้นไม้ใดลูกไม่ดก ผสมน้ำรดลูกดกแล...
...หากจะขายที่ ขายดิน ผสมน้ำรดแผ่นดิน
จะมีคนมาขอซื้อโดยเร็ววันแล
....ส่วนคาถาและวิธีการใช้จะมอบให้แก่ผู้บูชาเท่านั่น
เพราะตำหรับตัวนี้แม้แต่คาถาโบราณว่าตีค่ามิได้เลย