🎯 #ชุดเสน่หาพญาพราย รุ่นแรก ๒๕๖๒
พิธีจันทร์เพ็ญเดือนเจ็ด,จันทร์ซ้อนจันทร์
อ.สิทธิชัย โหรบัณฑิต ฆราวาสสายเขาอ้อ
เนื้อพรายล้วน ฝังตะกรุดเงิน จำนวนสร้าง 147 องค์
.
🧟♂️...((ใครชอบสายพรายไม่ควรพลาด))...🧟♀️
ขุนแผนพรายจันทรา รุ่นแรก (เน้นพรายล้วนๆ)
👳♀️ ผ่านกรรมวิธีถูกต้องครบถ้วนตามแต่โบราณ
👳♂️ ผ่านพิธีกรรมมหาภูตรูป 4 เป็นวิชาที่ตีค่าไม่ได้
ทำให้พรายที่สร้างเป็นองค์พระ ไม่ให้โทษ ไม่ทำร้าย
ไม่กินตัวผู้บูชา เป็นการนำพรายมาสร้างกุศลร่วมกับผู้บูชา
.
🌛ขุนแผนพรายชุดนี้เป็นขุนแผนรุ่นแรก ที่ อ.สิทธิชัย โหรบัณฑิต สร้างขึ้นเพื่อให้เช่าบูชา โดยปกติ อ.สิทธิชัย จะเน้นสร้างวัตถุมงคลจำพวกเครื่องรางมาโดยตลอด ดังเป็นที่รู้จักกัน อาทิเช่น น้ำมันรักร้อยชู้ ผงยารักร้อยชู้ ปลัดขิกพระยาปักถอก วัวธนู หุ่นพยนต์ ประคำเขาวัว108ยอด น้ำมันร้อยบุปผา สีผึ้งประกาศิตพระร่วง เบี้ยแก้พุทธกัน ตะกรุดโทนมหาราช น้ำมันเสน่ห์สูตรต่างๆ โดยสายเสน่ห์เป็นสายวิชาที่สร้างชื่อเสียงให้อ.สิทธิชัย โหรบัณฑิต จนเป็นที่รู้จักในนามเจ้าตำหรับวิชาเสน่หารักร้อยชู้ และถือว่าเป็นฆราวาสสายใต้ที่มีความรู้ ความสามารถทางด้านพิธีกรรมและด้านสรรพวิชาสายเขาอ้อในหลายๆด้าน โดยเฉพาะสายวิชาทางเสน่ห์ถือเป็นหนึ่งในอาจารย์สายฆราวาสที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันเลยทีเดียว
...สำหรับขุนแผนชุดนี้สร้างน้อยมาก เป็นขุนแผนรุ่นแรกที่สร้างออกให้บูชา จัดสร้างทั้งหมด 171 องค์เท่านั่น มี 3 แบบ คือ
- แบบเนื้อพรายพิเศษฝังตะกรุดคู่เงินทอง 12 องค์
- แบบเนื้อพรายพิเศษ ฝังตะกรุดทองคำ 12 องค์
- แบบเนื้อพรายล้วน ฝังตะกรุดเงิน 147 องค์
.
แม้ว่าขุนแผนชุดนี้จะเป็นขุนแผนบล็อคนิยม แต่ที่อาจารย์สิทธิชัย ได้ทำการจัดสร้างโดยใช้บล็อคชุดนี้ อันสืบเนื่องมาจาก ผงพรายส่วนใหญ่เป็นผงพรายที่ตกทอดมาจากหมอเลื่อน ซึ่งเป็นลูกศิษย์คุณทวดเคว็จ และเป็นหมอที่ทำพิธีล้างป่าช้า ที่เฮี้ยนมากๆ ในแถบตำบลร่มเมือง นั่นคือ ป่าช้าสามนาง หรือที่คนใต้เรียก "เปลวสามนาง" ตามตำนานเล่าว่ามีผู้หญิงลูกสาวเศรษฐี 3 นางเดินทางเพื่อจะนำทองคำและของมีค่าไปตรุพระธาตุ(ร่วมหลอมสร้างพระธาตุ) แต่ระหว่างทางขบวนที่เดินทางมาได้ถูกไข้ป่าระบาด จนล้มตายและสมัยนั่นศพทั้งหมดไม่ได้เผาไฟแต่จะฝังเอาไว้ ต่อมาชาวบ้านเรียกสถานที่นั่นว่า..เปลวสามนาง (เปลว แปลว่า..ป่าช้าในภาษาใต้) และหลังจากนั่นหากมีใครตายหรือเสียชีวิตก็จะนิยมนำไปฝังไว้ที่นั่นเรื่อยมา จนถึงสมัยปี 2520 ทางการให้รังวัดที่ดินใหม่ในเขตต.ร่มเมือง ทำให้เริ่มมีคนอยากได้ที่ดินเขตป่าช้ามาเป็นของตน แต่ด้วยง่า หากผู้ใดเข้าไปถากถางต้องมีอันเป็นไปทุกราย และที่สำคัญคือ จะต้องวิ่งทุรนทุรายมาตายในเปลวสามนางทุกคน จนเจ้าอาวาสวัดร่มเมืองสมัยนั่น ได้ขอร้องให้หมอเลื่อน ผู้เป็นลูกศิษย์คุณทวดเคว็จ คงแก้ว ไปทำการล้างป่าช้า สะกดวิญญาณ โดยตามคำบอกเล่าผู้ที่ทันเหตุการณ์เล่าว่า หลังจากหมอเลื่อนทำการสะกดแล้ว ได้ทำการขุดศพทั้งหมดที่ขุดได้ขึ้นมา แล้วทำการเผา นิมนต์พระมาสวดตามศาสนาพิธี แต่ในการนี้หมอเลื่อนได้เก็บผงกระดูกไว้ส่วนหนึ่ง เพื่อไว้เป็นตัวประกันไม่ให้พวกวิญญาณภูติผีทั้งหลายมาทำร้ายตนได้ และผงพรายชุดนี้ก็ตกมาเป็นของอาจารย์สิทธิชัย ซึ่งมีศักดิ์เป็นเหลนคุณทวดเคว็จ และเป็นลูกศิษย์ของหมอเลื่อนอีกทอดหนึ่ง เพราะอาจารย์สิทธิชัย เกิดไม่ทันสมัยคุณทวดเคว็จ มาทันในสมัยรุ่นคุณปู่ แต่คุณปู่ไม่ได้เก่งทางไสยศาสตร์มากนักแต่โชคดีที่ในชุมชนนั่นยังมีลูกศิษย์คุณทวดเคว็จอยู่หลายคนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น หมอเลื่อน บ้านมาบยาง หมอหอย วัดกลาง หมอนำ ท่าคลองตีน หมอจันทร์ บ้านหนองม้าว หมอแปลก บ้านในยาง เป็นต้น...ด้วยเหตุนี้จึงใช้บล็อคขุนแผน สามนาง มาเป็นบล็อคกดพิมพ์เพราะผงพรายส่วนใหญ่มาจาก ป่าช้าสามนางนั่นเอง
.
🌛🌛#พิธีกรรมการจัดสร้าง
...ขุนแผนพรายรุ่นนี้ เป็นขุนแผนพรายที่ผ่านกรรมวิธีหรือพิธีกรรมที่ถูกต้องแต่โบราณ ตั้งแต่การเส้นไหว้ผงพราย เส้นไหว้มวลสาร บูชาครูบาอาจารย์ โดยถือเอาฤกษ์จันทร์เพ็ญ จันทร์ซ้อนจันทร์มาเป็นกำลังในการพลียกรรม การตั้งธาตุ ปลุกธาตุ แปรธาตุ ชบธาตุ ตลอดจนผ่านพิธีกรรมมหาภูตรูป 4 ซึ่งเป็นวิชาที่ตีค่าไม่ได้เลยเพราะผู้เรียนต้องเข้าใจแตกฉานในการปลุกเสกและกระบวนการทำ และต้องเคยอุปสมบทมาแล้วจึงจะทำการนี้ได้ ซึ่งมหาภูตรูป 4 จะทำให้พรายที่สร้างเป็นองค์พระ ไม่ให้โทษ ไม่ทำร้าย ไม่กินตัว ผู้บูชา เป็นการนำพรายเหล่านั่นมาสร้างกุศลร่วมกันกับผู้บูชานั่นเอง....
.
🌛#การปลุกเสก...
ขุนแผนชุดนี้ทำการปลุกเสก 3 วาระหลัก
1.ปลุกเสกคืนจันทร์เพ็ญ (จันทร์ซ้อนจันทร์) ปลุกมวลสาร ปลุกพราย ผสมมวลสาร กดพิมพ์พร้อมปลุกเสกในวันเดียวกันทั้งหมด และเสกกลางคืน เสกกลางหาว ขอพลังจากพระจันทร์มาเป็นพลังมาเป็นฤทธิ์แก่วัตถุมงคล
2.ปลุกเสกคืนวันจันทร์ แรม 7 ค่ำ เดือน 7 ปลุกเสกกำลังเทวดาพิธีล่องลมยกศาลเทวา 16 เสา ปลุกเสกหน้าโบสถ์พราหมณ์ ปลุกเสกโดยอาจารย์จาก 4 สำนัก ประกอบด้วย
- หมอสมพร บ้านห้วยศรีเกษร
- อาจารย์ญาณกร สำนักถาวรเวท กทม.
- อาจารย์ดนุนันท์ สำนักฤษเวทย์ สมุทรปราการ
- อาจารย์สิทธิชัย โหรบัณฑิต พัทลุง
3.ปลุกเสกคืนวันพระ อังคาร แรม8 ค่ำเดือน7 ทำการปลุกเสกตรงรอยต่อระหว่างป่าช้าทั้ง3 ป่าช้า ซึ่ฃจุดที่ปลุกเสก เป็นรอยต่อของป่าช้าทั้งสาม คือ ป่าช้าสามนาง(ป่าช้าฝัง) ป่าช้าบางยายล้ม(ป่าช้าเผามีเชิงกราน) ป่าช้าเปลวยายหัน(ป่าช้าฝัง) ซึ่งแถบนี้เมื่อก่อนเป็นป่ารก และไม่ค่อยมีบ้านคนมากนัก เพราะติดทุ่งนา ห่างไกลจากถนนสายหลัก ผู้คนในชุมชนจึงนิยมนำศพมาฝังในแถบนี้ มาเผากันในแถบนี้ แต่ต่อมาคุณทวดเคว็จมาจับจองที่ดินเพิ่มเติมและด้วยไม่กลัวต่อภูติผีจึงสามารถสะกดวิญญาณและจับจองที่ดินใกล้กับป่าช้าเหล่านี้ โดยระยะห่างจากที่ตัวบ้าน ห่างไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้เพียง 200 เมตรก็จะถึงป่าช้าสามนาง ทางทิศใต้ห่างไป 500 เมตร เป็นป่าช้าบางยายล้ม และห่างจากตัวบ้านไปทางทิศตะออกเฉียงใต้ 800 เมตร ก็จะเป็นป่าช้ายายหัน ซึ่งการปลุกเสกในวาระนี้ได้ทำการปลุกเสกในจุดรอยต่อทั้ง3 ด้าน จุดดังกล่าว ชาวบ้านและลูกหลานได้นำกระดูกคุณทวดเคว็จ มาบรรจุใส่โกฐปูนไว้ที่นี่ เพื่อสะกดผีอื่นๆ ไม่ให้รังคราญคนในหมู่บ้านนั่นเอง..โดยวาระนี้ได้ทำการเบิกเนตรพราย เบิกที่ละองค์ จนครบ ทำการเส้นไหว้พรายตามตำรา ทั้งไก่คลุกขมิ้นย่างทั้งตัว เครื่องบัตรพลีเส้นไหว้ผี ยำปลียำหยวก ข้าวกระโทง น้ำกระโทง สุรา อาหารตามธรรมเนียมโบราณ ....
ปล..ความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณาณในการศึกษาข้อมูล
👳🏼♀️ Cr.อาจารย์สิทธิชัย โหรบัณฑิต
อาจารย์ฆราวาสศิษย์สำนักสายเขาอ้อ