ตะกรุดพระเจ้าปราบหงสา มหาระงับ หลวงปู่ขันธ์ วัดมงคลโสภิต(วัดต้นสน)จ.ฉะเชิงเทรา พระอริยเจ้าศิษย์สายหลวงปู่มั่น
หลวงปู่ขันธ์ สิริวณฺโณ (พระครูโสภิตมงคลการ) อายุ 97ปี ท่านเป็นคนที่มีรูปร่างสูงใหญ่ กระดูกแขน ขายาว เหมือนคนโบราณ ลักษณะคล้ายกับพ่อหลวงสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย จ.ชุมพร และหลวงพ่ออ๋อย วัดไทร บางขุนเทียน
แม้ท่านจะเป็นพระสงฆ์ในฝ่ายมหานิกาย แต่ก็เชี่ยวชาญวิปัสสนาธุระเป็นอย่างยิ่ง ดังปรากฏว่า ท่านได้รับพระราชทานพัดยศขาว และได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในฝ่ายวิปัสสนาธุระ
เมื่อสมัยหนุ่มๆ ท่านถือธุดงควัตร ตามแบบพระธรรมยุต โดยมุ่งศึกษาแนวทางปฏิบัติตามอย่างพระป่าสายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตเถระ โดยท่านธุดงค์ไปฝากตัวเรียนด้านวิปัสสนากับศิษย์สายพระอาจารย์มั่น รูปสำคัญๆ หลายท่าน อาทิ หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล, หลวงปู่เทสก์ วัดหินหมากเป็ง, หลวงปู่ดุลย์ อตุโล วัดบูรพาราม นอกจากนี้ ท่านยังธุดงค์ไปศึกษาวิปัสสนากับ ท่านอาจารย์พุทธทาส ณ สวนโมกขพลาราม จ.สุราษฎร์ธานี อีกด้วย
ท่านเล่าให้ฟังว่า ในช่วงถือธุดงควัตรของท่านนั้นเป็นไปอย่างอุกฤษฏ์ ได้บุกป่าฝ่าดงไปมาเกือบทั่วประเทศ มีครั้งหนึ่ง ท่านเข้าไปเจริญภาวนาในถ้ำ พอออกจากถ้ำจะไปบิณฑบาต ได้พบเสือแม่ลูกอ่อนที่ปากถ้ำ ต่างจ้องตากันอยู่พักหนึ่ง จิตตอนนั้นไม่คิดกลัว มีแต่การกำหนดรู้เท่านั้น ไม่นานเสือแม่ลูกอ่อนก็กระโดดหายไปในป่าลึก
นอกจากนี้ ท่านยังมีสติปัญญาดีเลิศ มีความจำแม่นยำมาก สามารถท่องสวดปาติโมกข์ ได้โดยลำพังรูปเดียวตั้งแต่ต้นจนจบ ในสมัยก่อน พระที่ท่องปาติโมกข์ได้มีน้อยรูป ปีหนึ่ง ท่านอยู่อบรมพระกรรมฐานกับบรรดาศิษย์พระอาจารย์ดังหลายสำนัก ครั้นพอถึงเวลาสวดปาติโมกข์ ปรากฏว่า พระภิกษุสงฆ์ในอุโบสถไม่มีรูปใดสวดได้ ท่านจึงต้องขึ้นสวดปาติโมกข์ ในท่ามกลางพระสงฆ์จำนวนมาก
หลวงปู่ขันธ์ เป็นพระเถราจารย์ที่พระเดชพระคุณ พระพรหมสุธี (เจ้าคุณเสนาะ) วัดสระเกศฯ เจ้าคณะภาค ๑๒ มีความเลื่อมใสศรัทธามาก พร้อมกับกล่าวยกย่องท่านว่า "เป็นพระแท้ ควรแก่การยกย่อง รูปหนึ่ง"
อุปเทห์การใช้-ก่อนจะผูกตะกรุดหรือพกพาไปในที่ต่าง ๆ ให้อาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยก่อน แล้วตั้ง นะโม 3 จบ แล้วว่าคาถาดังนี้ ***นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะพะกะสะ มะอะอุ อิติปะรามิตาติงสะ อิติสัพพัญญูมาคะตา อิติโพธิมะนุปปัตโต อิติปิโสจะเตนะโม***
1.ผูกกับเอว รูดไว้ข้างหน้า จะมีตบะเดชะ เหนือกว่าคนทั้งหลาย เนื้อหนัง คงทนถาวร ถ้าจะไปสู่สงคราม ผจญข้าศึกให้เอารูดไว้ข้างหน้า สรรพศัตรูพ่ายพินาศ บ่ห่อนต้องเกรงกลัวอาวุธใดใดเลย ศัตรูผู้คิดร้าย ทำลายเราไม่ได้ จะเจริญรุ่งเรือง ไม่ตกต่ำจากยศฐาบรรดาศักดิ์เลย เป็นสวัสดิมงคล ปกป้องอันตรายทั้งปวง
2.รูดไว้ข้างซ้ายเป็นสายสุดเสน่ห์ เข้าหาหญิงชายใดเป็นมหาเสน่ห์ มหานิยม เป็นที่นิยม ชมชอบแก่คนทั่วไป แม้เขาโกรธเกลียดเรา ก็หายสิ้นแล และกลับรักใครชูชุบอุปถัมภ์ เป็นที่รักแก่มนุษย์ เทวาทั้งหลาย
3. หากจะใช้ทางเมตตา มหาเสน่ห์ โบราณว่าขลังนักในเรื่องเมตตา ท่านให้ภาวนามือลูบตะกรุด แล้วเอามือนั้นลูบหลังสตรี ดีนัก ถึงโกรธเราเท่าไร ก็หายสิ้น กลับเมตตา รักใคร่เราดีนักแล ให้ตั้งใจให้เคลิบเคลิ้ม ลุ่มหลง ตั้งนะโม 3 จบ แล้วภาวนาว่า นะระงับ ดับโทโส โมระงับ ดับความคิด พุทระงับ ละลายจิต ธาพาให้ลุ่มหลง ยะงวยงงหลงพิศวาสในตัวกู พุทธังปราบถึงหัวใจ ธัมมังปราบทุกขุมขน สังฆังปราบถึงกระดูกดำ โอมจิตตัง พาลีลูบหลังนางแก้วดารา สวาหะ อิตถีจิตตัง ปุริโสจิตตัง เสนาราชาจิตตัง สมณะพราหมณ์มหาจิตตัง เอหิพันธัง ปิยังมะมะ
4. รูดไว้ข้างขวาไปหาลาภ แก้วแหวนเงินทอง เพิ่มพูนมากมาย พ่อค้าพาณิชย์ ค้าขายดีนักแล สามเดือนเลื่อนเป็นเศรษฐี 3 ปีเลื่อนเป็นพ่อค้าสำเภา ร่ำรวยด้วยโภคทรัพย์น้อยใหญ่ หลั่งไหลมาสู่เรา ดุจมหาสมุทรแก้ว ที่รองรับแม่น้ำน้อยใหญ่ หลั่งไหลเข้ามา จะแสวงหาโชคลาภ ลาภลอย เล่นโป เล่นพนัน ให้อธิษฐานเอากับตะกรุด ตั้งสัจจะ ได้เงินมามากเท่าไรแล้วจึงจะเลิก หากถือได้ตามนี้ ท่านว่าเล่นเถิดได้ตามใจปรารถนาแล
5. รูดไว้ข้างหลัง แม้ต้องหนีภัย ถึงคราวดวงตก ต้องหนีภัย จะแคล้วคลาดปลอดภัย เขาตามเรามิทันแล แม้เป็นถ้อยกระทงความ ถูกเขาเอาความร้ายมาแกล้งเอา ความจะหาย จะชนะความ เคราะห์ร้ายจะหมด ต้องธรณีสารก็หาย โรคภัยก็คลาย ที่โรคร้ายก็หมด กันทุกข์โศก โรคร้าย กันภูตผีปีศาจ กันฟ้ากันไฟ ประเสริฐดีนักแล