ตะกรุด "ถั่วแตก" ห่วงคู่ หลวงปู่ญาท่านเขียน สำนักสงฆ์ป่าช้าบ้านโพนสิม(ยางขี้นก) อุบล

ตะกรุด "ถั่วแตก" ห่วงคู่ หลวงปู่ญาท่านเขียน สำนักสงฆ์ป่าช้าบ้านโพนสิม(ยางขี้นก) อุบล

ตะกรุดถั่วแตกห่วงคู่ ญาท่านเขียน เลือดไม่ออก 1 ห่วง ไม่ตายโหง 1 ห่วง เป็นที่มาของตะกรุด 2 ห่วง ห่วงหนึ่งคล้องไว้ไม่ให้เจ็บเท่ากับไม่สะเทือนผิวหนังแ

มลงวันไม่กินเลือด ห่วงสองไม่ตายโหง คือไม่ตายด้วยอุบัติภัย ตายโหงตายห่าอยู่ข้างถนน ถึงที่ตายต้องกลับมาตายที่บ้านตายรัง

อีกชื่อหนึ่งว่า “ ตะกรุดถั่วแตก” เพราะลักษณะตะกรุดถักเป็นเม็ดถั่วลิสง สีดำขับอวบอิ่ม อุปมา เสียงปืนยิงเป็นเม็ดถั่วแตก ปัง ปัง ปัง ยังกับเสียงถั่วที่คั่วบนเตา เสียงดังถี่แต่ไร้น้ำยา ไม่มีความสามารถทำอันตรายเราได้ อุปมาดังอาจารย์เก่าท่านเปรียบเทียบไว้อย่างนั้น ญาท่านเขียน ท่านทำตะกรุด เม็ดถั่วแตก 2 ห่วง เพื่อให้เป็นตะกรุดมหาอุด คู่กาย ให้แคล้วคลาดจากอันตรายทั้งปวง ญาท่านกำกับลงยันต์ในแผ่นตะกั่ว กำกับยันต์

มหาอุด ทั้ง 5 คลุมองค์พระ 2 องค์ และถักเชือกลายเฉพาะของญาท่านตามสูตร และลงรักดำเมี่ยมไว้ทั้งดอก ตะกรุดนี้ญาท่านสร้างอย่างที่โบราณท่านทำ ดอกเล็กพกง่ายติดกายไว้ไม่ลำบาก และมีเคล็ดว่า ยามคับขันที่ตะกรุดต้องช่วยชีวิตเรา บางทีห่วงจะแสดงนิมิตให้เห็นว่าเคลื่อนมาชิดกันได้เองและออกห่างกันได้เองอย่างน่าประหลาด 

เมื่อไหร่ที่ท่านเอาไปลอง เมื่อหยิบอาวุธมาจะประหัตประหาญตะกรุดนี้ ถือว่าตะกรุดดอกนี้เสื่อมแล้ว เพราะเท่ากับท่านคิดเอาอาวุธมาทำลายของที่ครูบาอาจารย์ท่านลงให้ของที่มีพระพุทธานุภาพคลุม ครูบาอาจารน์เก่าท่านจึงสั่งว่าไม่ต้องลอง เมื่อยามเดือดร้อนจวนตัวก็จะเห็นเอง เรื่องเกิดขึ้นมาแล้วว่า หนุ่มวัยฉกาจ 30ปีบริบูรณ์ พกตะกรุดถั่วแตกยกพวกไปตีกัน ตำรวจตามจับจวนตัว จับตะกรุดอยู่นิ่งๆ ตำรวจเดินผ่านเป็นขโยง เดินจะชนแต่มองไม่เห็นอีกคนเพื่อย้ำว่าจวนตัวช่วยได้ คือ จ่าสิบตำรวจ ผ.บ.หมู่ ยะลา ถูกคนร้ายซุ่มยิงหลังจากที่รถโดนระเบิด ซุ่มยิงก็ไม่โดนระเบิดก็ด้าน อย่างนี้ซิครูบาอาจารย์เก่าท่านทำจริงเสกจริง 

ตะกรุดนี้ไม่ได้ลงทางเมตตา หาของเมตตามหาเสน่ห์ใช้ไม่ได้ บอกกับชัดๆไม่ต้องหลอกกัน แต่หาของคุ้มตัว อะไรที่ว่าเลวร้ายอันตราย จะผ่านไปสุดท้าย ไม่ให้เจ็บไม่ให้ตาย 

ตะกรุดถั่วแตก 2 ห่วงที่ญาท่านเขียนเหยียบน้ำโขงพระป่า กลางป่าช้าทำให้ สาธุ สาธุ สาธุ สร้าง 999 ดอก