..#ผ้ายันต์เจ็ดนารีพันหลัก..(เต็มสูตร)..
>>ทำไมถึงมีรูปยันต์ร่วมรัก 3 แบบ ???
>>ทำไมถึงต้องแช่ว่าน แช่ยา ???
>>ทำไมต้องปลุกเสกหลายวาระ ???
>>ทำไมถึงบอกว่าเหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย ???
***ศึกษาคำตอบกันครับ***...
=#ประเด็นแรก...#ทำไมถึงมีรูปยันต์ร่วมรัก 3 แบบ ก็เพราะผ้ายันต์ชุดนี้แสดงให้เห็นถึงความรักที่แตกต่างออกไปในโลกนี้ ซึ่งมีความรักของเพศต่างๆ ที่เป็นหลักของมนุษย์เพียง 3 แบบ อันได้แก่ ชายรักหญิง ชายรักชาย และหญิงรักหญิง แล้วแยกออกเป็นเพศต่างๆ ถึง 18 เพศ ซึ่งปัจจุบันนี้หลายท่านคงได้ศึกษากันอยู่บ้างในประเด็นนี้ ว่าเรื่องของความรักที่เกี่ยวกับเพศ เป็นเรื่องของธรรมชาติที่ไม่มีใครจะฝ่าฝืนหรือกำหนดมันได้ ซึ่งในทางพุทธ ความรักแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ
....1. ความรักแบบเมตตา เป็นความรักที่เป็นอุดมคติตามหลักพระพุทธศาสนา เป็นความรักที่ไร้ขอบเขต ไม่มีข้อจำกัด ดังข้อความในคัมภีร์พระพุทธศาสนาตอนหนึ่งว่า “…มีใจประกอบด้วยเมตตา แผ่ไปตลอดทิศหนึ่งอยู่ ทิศที่สอง ทิศที่สาม ทิศที่สี่…ทั้งเบื้องบน เบื้องล่าง เบื้องขวาง แผ่ไปตลอดโลกทั่วสัตว์ทุกเหล่า ในที่ทุกสถาน ด้วยใจประกอบด้วยเมตตาอันไพบูลย์ ถึงความเป็นใหญ่ หาประมาณมิได้ ไม่มีเวร ไม่มีความเบียดเบียนอยู่…”
....2. ความรักแบบสิเน่หาหรือราคะ เป็นความรักระหว่างเพศ หรือความรักทางเพศ เช่นความรักของหนุ่มสาว มีจุดเด่นอยู่ที่ความชื่นชมติดใจ หรือความปรารถนาในรูป เสียง กลิ่น รส และสัมผัสกายของผู้ที่ตนรัก เป็นความรักสามัญของปุถุชน ซึ่งมีลักษณะสำคัญคือความต้องการหาความสุขให้แก่ตนเอง หมายความว่า ที่รักเขานั้นก็เพื่อเอาเขามาเป็นเครื่องบำเรอความสุขแก่ตน ต้องการเอาความสุขเพื่อตนเอง
.....ซึ่งความรักทั้ง 2 แบบนี้สามารถมีพร้อมกันได้ มีร่วมกันได้ แต่ผลที่ได้อาจแตกต่างกันออกไป..การที่ผ้ายันต์ชุดนี้สร้างขึ้นมาโดยอาศัยรูปยันต์เหล่านี้ เพื่ิแสดงให้ท่านทราบว่า เราหนีสิ่งเหล่านี้ไม่พ้น น้อยคนนักที่จะข้ามมันพ้นไปได้ และเพื่อให้ท่านเห็นว่า ทางผู้จัดสร้างได้สรรหายันต์ที่มีคุณที่ตรงต่อความเป็นตัวตนของแต่ละบุคคลอย่างทั่วถึง ชายก็รัก หญิงก็รัก อันเป็นสิ่งที่ทุกคนต่างพึงปรารถนา
= #ประเด็นที่ 2 #ทำไมต้องแช่ว่าน แช่ยา...ขอตอบว่า การทำผ้ายันต์ยุคโบราณหลายๆท่านลองไปศึกษาดูได้เลยว่า..การจะทำผ้ายันต์สักผืน สักชิ้น หรือ ผ้าประเจียดสักผืน การได้มาซึ่งผ้ายันต์นั่นเขาทำกันอย่างไร เช่น บางสำนักนำผ้าด้ายดิบมาแช่น้ำฝนเดือนห้า บางสำนักแช่น้ำมนต์จันทร์เพ็ญ บางสำนักแช่น้ำฝนห่าแรก บางสำนักต้องหาผ้าจากผ้าดาดเพดานเชิงตะกอน บางสำนักใช้ผ้าห่อศพครูบาอาจารย์มาแช่น้ำว่านน้ำยา บางสำนักเอาผ้ามาต้มกับเปลือกไม้ เปลือกว่าน เรียกกรรมวิธีเหล่านี้ว่า.."ทำให้เข้ายา" ผ้ายันต์ชุดนี้จึงได้ทำไว้ครบทุกรูปแบบที่สามารถทำได้ ตั้งแต่การแช่น้ำว่าน ผ่านน้ำยา เป่าผง ลงแป้ง เพื่อให้ได้ทั้งพุทธคุณ อิทธิคุณ สรรพคุณ ที่ครบครัน..และสามารถพูดได้เต็มปากว่า..ผ้ายันต์นี้ "เข้ายา"...
= #ประเด็นที่ 3 #ทำไมต้องเสกหลายวาระ..ขอตอบว่า..การทำวัตถุมงคลจำพวกเครื่องราง ต่างจากการทำวัตถุมงคลจำพวกวัตถุบูชา พระเหรียญ พระบูชา เพราะพระเหรียญ พระบูชา เป็นการสร้างขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนของสิ่งที่มีเคยมีคุณ ที่เคยมีตัวตน หรือ มีคุณโดยรูปธรรมอยู่แล้ว เช่น สร้างรูปพระพุทธเจ้า สร้างเหรียญพระเกจิที่เป็นอริยสงฆ์ แต่การสร้างจำพวกเครื่องรางเป็นการสร้าง เพื่อสมมุติสิ่งที่สร้างให้มีพลังอำนาจโดยอ้างคุณต่างๆ ของเทพ ของเทวดา ของครูบาอาจารย์ มาสร้างสรรค์ให้เกิดเป็นชิ้นอัน เพื่อดึงพลังจากธรรมชาติเข้ามาแฝง มาสถิต ให้เกิดฤทธิ์ตามความเชื่อ ดังนั่นต้องเน้นกรรมวิธี เน้นการปลุกเสก เพื่อให้ได้พลัง เพื่อให้มีพลังมาสถิต โดยพลังดังกล่าวอาจมาจาก พลังธาตุในธรรมชาติ พลังจากอาทิตย์ พลังากพระจันทร์ พลังจากกสิณต่างๆ พลังจสกจิตตานุภาพของผู้ปลุกเสก ดังนั่นผ้ายันต์และวัตถุมงคลชุดนี้จึงต้องทำการปลุกเสกหลายวาระและสลับซับซ้อนตามกรรมวิธีแต่โบราณ
= #ประเด็นที่ 4 #ทำไมถึงบอกว่าเหมาะกับทุกเพศ ทุกวัย ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ผ้ายันต์แบบนี้ ไม่ได้ทำขึ้นเพื่อหวังจะฆ่าใคร ทำร้ายใคร ผ้ายันต์ด้านเสน่ห์เมตตา เป็นผ้ายันต์ที่สร้างขึ้นมา เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจให้รู้จักความรักที่มากขึ้น ให้เข้าถึงความรักที่ถูกต้อง ให้ใส่ใจในความรักในทุกอริยาบทที่แสดงออกมา ผ้ายันต์นี้ทำไมถึงใช้ได้ทุกเพศ เพราะหัวใจคาถาที่บรรจุจารลงไป มีครบในทุกเพศที่เกิดขึ้นในโลกตามประเด็นที่ 1 ที่ได้อธิบายไว้ว่า..ท่านเห็นได้มามีรูปรัก3 แบบ คือ
--ชายรักหญิง หรือหญิงรักชาย
--ชายรักชาย
--หญิงรักหญิง
ซึ่ง 3แบบนี้ครอบคลุมทั้ง 18 เพศ ดังนี้
1.ผู้ชาย (ชายรักหญิง)
2.ผู้หญิง (หญิงรักชาย)
3.ทอม (หญิงรักหญิง)
4.กระเทย (ชายรักชาย)
5.ดี้ (หญิงรักหญิง)
6.ทอมเกย์ (หญิงรักหญิง)
7.ทอมเกย์คิง (หญิงรักหญิง)
8.ทอมเกย์ควีน (หญิงรักหญิง)
9. ทอมเกย์ทูเว (หญิงรักหญิง)
10.เกย์คิง(ชายรักชาย)
11.เกย์ควีน (ชายรักชาย)
12.โบ๊ท (ชายรักชาย รักหญิง)
13.ไบท์ (หญิงรักหญิง รักชาย)
14.เลสเบี้ยน (หญิงรักหญิง)
15.สามย่าน (หญิงรักหญิง รักชาย)
16.อดัม (ชายรักทอม(หญิง))
17.แองจี้ (กะเทยชอบทอม= ชายรักหญิง)
18.เชอรี่ (หญิงชอบเกย์ ชอบกะเทย = หญิงรักชาย)
...ในส่วนของคำอธิบายของแต่ละเพศลองไปหาข้อมูลเอาเองนะครับ แต่ในที่นี้ขอยกให้เห็นว่า..ความรักที่เกิดขึ้นกับรูปแบบทางเพศมี เพียง 3 แบบหลักๆ เท่านั่น..ซึ่งผ้ายันต์ชุดนี้ก็มีให้ครบ จึงเหมาะกับทุกเพศ หญิงใช้ได้ ชายใช้ดี ใครรักแบบไหนครอบคลุมหมดในทุกสภาพ ในทุกเพศ และใช้ได้ทุกวัย เพราะไม่เจาะจงอายุ เด็กๆก็ใช้ให้เกิดผลทางเมตตา วัยรุ่นมาก็ทางเสน่ห์ความรัก มีครอบครัวแล้วก็ใช้ในทางการงาน
......เสน่ห์ เมตตา มีหลายรูปแบบ ไม่ใช่แค่เพียงตอบสนองทางเพศ แต่มีหลายรูปแบบ ที่ใช้ได้กับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ใช้ทางด้านการงานก็ได้ ใช้ทางด้านการเจรจาตกลงค้าขาย ให้เจ้านายเมตตาเอ็นดู ให้คนอุปถัมภ์ค้ำชู ให้คนส่งเสริมสนับสนุนก็มี
....สุดท้ายทุกอย่างล้วนเกิดจากความเชื่อ ความศรัทธาเป็นหลัก วัตถุมงคลแค่เครื่องยึดเหนี่ยวที่นำไปสู่ความเชื่อเท่านั่น หากเชื่อว่าดี สิ่งดีๆก็จะตามมาครับ....
((ความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณในการศึกษาข้อมูล))
อ.สิทธิชัย โหรบัณฑิต
เทวสถานโบสถ์พราหมณ์บ้านร่มเมือง จ.พัทลุง
ผู้ดำเนินการสร้างผ้ายันต์เจ็ดนารีพันหลัก